เทคโนโลยีสื่อสารฉับไว ส่งให้ก่อกรรมด้านวาจาได้ง่าย  คำไม่กี่คำอาจทำให้ฆ่าตัวตายหรือมีกำลังใจสู้ชีวิตต่อ อาจทำให้คนรักหรือเกลียดกัน 
- (อย่างที่ปลุกระดมให้คนแบ่งสีแบ่งข้าง เกลียดกันได้อย่างทุกวันนี้ การทำให้คนทุกหมู่เหล่าแตกแยก อาจถือเป็นบาปร้ายแรงเทียบการทำอนัตริยกรรมได้เลย)
คำพูดที่ถูกต้อง ถูกเวลา ถูกบุคคล ทำให้บางคนสำเร็จอริยะหรือเปลี่ยนเส้นทางชีวิตมาแล้ว   
        ทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้นกลับคืนเสมอไม่วันใดก็วันหนึ่ง  ทำอะไรกับใครไว้ ไม่ใช่คนนั้นต้องย้อนมาทำเราคืน แต่ทุกข์ที่คนอื่นได้รับทางใจเท่าใด จะดึงไปเจอคนที่เลวพอจะทำความทุกข์ทางใจให้เราได้สมกับที่เราทำไว้ในอดีต 
          บทหนึ่งที่พระให้พร คือ  “อะภิวาทะนะสีลิสสะฯ... อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง” แปลว่า.. “บุคคลผู้มีปรกติกราบไหว้ อ่อนน้อมเป็นนิตย์  ย่อมเจริญด้วยธรรมสี่ประการ คือ  อายุ วรรณะ สุขะ พละ”  
ที่เข้าใจว่าพระให้พร  ความจริงท่านสอนธรรมะให้นำไปปฏิบัติ ไม่ใช่พนมมือก้มรับแล้วคิดว่าเป็นมนต์ขลังที่เสกให้ใครโชคดีได้  
- พระพุทธเจ้าทรงฤทธิ์มาก แต่ไม่เคยปรากฏว่าทรงเสกเป่าให้ใครรวยหรือโชคดี ทรงแนะให้ทำสิ่งนี้แล้วจะได้สิ่งนี้
ใครทำอะไรย่อมได้รับผลนั้น  จะโชคดีขึ้นอยู่กับความดีที่สั่งสมไว้  จะเรียนเก่งต้องขยัน จะร่ำรวยต้องทำเหตุให้พร้อม   ซึ่งก็มีกล่าวไว้ในคาถาเศรษฐี.. "อุอากะสะ"    
ไม่ใช่ท่องแล้วจะรวย แต่คำว่า อุอากะสะ คือคำย่อของแต่ละประโยคที่พระพุทธองค์ทรงให้ทำ เช่น.. รู้จักหาทรัพย์ รู้จักรักษาทรัพย์ รู้จักคบเพื่อนดี ทำตามนั้นแล้วถึงจะรวย 
ไม่ใช่สักแต่เอาคาถามาท่องแล้วจะรวย จะรวยได้เพราะปฏิบัติตนตามคาถาหรือบทสวด ซึ่งเป็นคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้  ไม่ใช่การเปลี่ยนชื่อ ใช้เบอร์โทรเลขสวย หรือเที่ยวเอาของไปเซ่นไหว้ใคร   
- (งมงายกันจริงเรื่องเลขมงคล หินมงคล มันเป็นธุรกิจ และส่งผลดีแค่ด้านให้กำลังใจเท่านั้น ต่อให้เอาขี้หมามาปั้นห้อยคอ แล้วคิดว่าเป็นของขลัง พลังบุญและพลังจิตที่เชื่อมั่นของตนเองนั่นแหละ ส่งผลได้ระดับหนึ่ง)
มีคนถามว่าใช้เบอร์โทรเลขอะไรจะเรียนเก่ง ??  ตอบว่า.. ถ้าอยากฉลาดเรียนเก่งต้องหยุดเชื่อเรื่องปัญญาอ่อนพวกนี้ให้ได้ก่อนนะครับ!! เพราะศาสตร์นี้ ขัดหลักคำสอนพระพุทธเจ้าโดยตรง  แต่อยากงมงายก็ไม่มีใครว่าครับ
อยากให้ระลึกถึงคำของพระพุทธองค์ที่ตรัสไว้ว่า.. “คนเขลามักคำนวณดวงดาวอยู่”  
สำหรับป้าย “บ้านนี้อยู่แล้วรวย” เช่นกัน เป็นป้ายประจานตัวเองว่า.. นับถือศาสนาพุทธด้วยจิตที่เต็มด้วยโลภะ  หรือประกอบด้วยปัญญาและเข้าใจศาสนาถูกทาง     
        คนจะรวยได้ด้วยการกระทำ ด้วยบุญที่ตัวเองทำ ด้วยความขยันที่ตนเองทำ ไม่ใช่ด้วยการปักป้าย เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์โทร หรือ การเชื่อฤกษ์มงคลอะไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ขัดขวางการบรรลุธรรม  ( สีลพตปรามาส )
ความอ่อนน้อมคือสมบัติผู้ดีและมารยาท  รู้จักเคารพกราบไหว้ผู้ใหญ่  ให้เกียรติผู้อื่นแม้ด้อยกว่า เคารพความเห็นแตกต่าง ว่านอนสอนง่าย มีน้ำใจ เป็นมิตรกับคนทุกเพศวัย  ฯลฯ    
เด็กคนหนึ่งเจอผู้ใหญ่ไม่ไหว้ หน้าบึ้ง   กับเด็กอีกคนไหว้ สวยงามยิ้มแย้มพูดจาน่ารัก เราจะเอ็นดูอยากช่วยเหลือใครกว่ากันเจ้าของร้านหน้าบึ้งหรือยิ้มแย้มจริงใจต่อลูกค้า เราอยากซื้อของใครมากกว่ากัน
- สังคมไทยในอดีตปลูกฝังการอ่อนน้อมในชีวิตประจำวันด้วยให้ระลึกคุณแม้สิ่งมองไม่เห็น เช่น.. พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ฯลฯ
เป็นจุดเริ่มให้กตัญญูรู้คุณ ส่งเสริมความอ่อนน้อมในใจลูกหลาน  กินข้าวต้องสำนึกบุญคุณชาวนา  เด็กเสิร์ฟยกอาหารมาให้  คนขับแท็กซี่ แม่ค้าขายข้าว ต้องสอนลูกให้สำนึกบุญคุณ 
พูดขอบคุณคนเหล่านี้ให้ได้ทุกครั้ง ความอ่อนน้อมจะติดตัวเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักและเจริญในทุกด้านอย่างที่พระท่านอวยพร 
         ผู้สรรเสริญความดีผู้อื่นย่อมได้รับการสรรเสริญจากคนทั้งโลก ทุกคนล้วนมีความดีอยู่ในตัว ไม่มีใครชั่วจนหาความดีไม่ได้  คนฉลาดจะรู้จักสะสมบุญด้วยพยายามหาข้อดีคนอื่นมาชื่นชม
 แยกแยะด้วยว่าเป็นการชื่นชมจากใจจริงหรือประจบสอพลอ หรืออวยเกินเหตุจนเสียคน อยากเห็นการอวยเกินเหตุเปิดดูทีวีประกวดร้องเพลงได้แทบทุกรายการของไทย 
และลองเทียบรายการเมืองนอกดู จะเห็นความแตกต่างชัดเจนว่า.. การติเพื่อก่อส่งผลดีมากกว่าอวยแบบไม่ลืมหูลืมตาอย่างไร และในที่สุดศิลปินประเทศไทยแลดูพัฒนาตามหลังต่างชาติอย่างมาก  
- ยิ่งถ้าเทียบกับเกาหลีใต้ จะเห็นชัดเลยว่ากรรมการเขาเข้มงวดและติแรงจริง ๆ ติจนเด็กต้องไปพัฒนาตนเอง และต้องเก่งจริงถึงมาแข่ง ไม่ได้เอาดราม่า พิการ พ่อตาย บ้านไฟไหม้ เด็กเล็กก็ต้องเก่งจริง ๆ
 แต่กับคนไทยไม่มีพัฒนาการอะไรเพิ่มขึ้นเลย ชมอวยซะเวอร์ ในที่สุดเด็กจึงไม่พัฒนา(เท่าที่ควร) จบซีซั่นมาหลายปียังร้องเพลงได้คุณภาพเหมือนเดิม 
เรื่องนี้ไม่ได้ว่าใครแต่อยากชี้ให้เห็นว่า การติเพื่อก่อ การบอกข้อผิดพลาดที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะช่วยพัฒนาคน  และคนแต่ละคนเป็นหน่วยหนึ่งในสังคม คนมีคุณภาพมากเท่าไหร่ สังคมยิ่งมีคุณภาพมากเท่านั้น 
- ทำไมเกาหลีใต้ถึงเจริญเร็วไปไวในช่วงเวลาไม่กี่ปี ก็เพราะเขาไม่มีการอวยแบบใส้แตกเหมือนคนไทย เขามีแต่การติในข้อผิดพลาด และให้แก้ไขทันที ปรากฎการณ์แค่สิบปี แต่พัฒนาชาติได้ไกล ทั้งสินค้า ดารา นักร้อง ที่ไประดับอินเตอร์ในวงกว้าง
สื่อบันเทิง บ่งบอกสติปัญญาคนในชาติ  ความซับซ้อนหลากหลายของเพลงและซีรีส์  แสดงให้เห็นว่าคนในชาติเป็นอย่างไร  ถ้าชอบแต่เรื่องตบตีฆ่าแย่งผัว และฟังเพลงแบบเอามัน ไม่สนเนื้อหา ร้อยเนื้อทำนองเดียว ดนตรีไร้รสนิยม ฯลฯ
- นั่นก็แสดงว่าคนในชาติมีสติปัญญาแค่นั้น สนใจแต่ความสะใจ เอาแต่ความสนุก แต่ไม่เอาเหตุผล และไม่พัฒนา
รายการเกาหลีร้องเพลงวัยรุ่นใหม่ ๆ  กล้องฉายไปที่คนดู จะเจออาม่า อาซิ้ม ปู่ย่าตายาย นั่งดูด้วยรอยยิ้ม และเต็มใจ    
