การปฏิบัติธรรม-การฝึกตนในหลายด้าน มักไม่ได้ผลกับคนทั่วไปในวงกว้าง เพราะเน้นหักดิบหรือบังคับตนเกินพอดี ซึ่งนั่นเหมาะกับคนมีปัญญากล้าหรือมีความพร้อมถึงระดับแล้ว
แต่สำหรับคนที่ฐานจิตยังไม่มั่นคง จะเป็นเรื่องยากเกินเอื้อมถึงจนถอดใจ และแม้ทำได้ อาจเพียงกดข่มชั่วคราว เหมือนหินทับหญ้า ยกหินออกก็งอกใหม่ได้
- คนส่วนใหญ่รู้ดีว่ากินเหล้าผิดศีลห้า แต่มักตัดใจได้ยากและมีข้ออ้างสารพัดเพื่อจะไม่เลิก
การจะหลุดจากสิ่งไม่ดีที่ย้อมจิตให้ลุ่มหลงติดใจ วิธีที่น่าจะทำได้จริงกับคนทั่วไปมากกว่า คือ.. พยายามสะสมข้อมูล เรียนรู้ให้เข้าใจทีละขั้นในขณะที่ยังอยู่กับมัน
ไม่ใช่การวิ่งหนีหรือบังคับให้ตัดขาดทันที การแนะนำให้คนเลิกเหล้าหรือยาเสพติด อย่าเริ่มต้นด้วยการทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันเลว เป็นบาปร้ายแรง
หรือต้องให้ละทิ้งสิ่งที่ลุ่มหลงมานานในทันที เพราะมันทำให้จิตต่อต้านและไม่เปิดใจรับ
- มนุษย์จะละกิเลสแต่ละด้านได้ ต้องมีสิ่งดีกว่าเข้ามาแทนให้จิตได้สัมผัสทีละลำดับขั้น
ครูอาจารย์สอนไว้ว่า.. การรักษาศีลเอาที่ทำได้แน่แค่ข้อเดียวก่อนก็ได้สำหรับคนพึ่งเริ่มต้น ไม่ต้องพยายามเป็นคนดีให้ได้ทันที ไม่ต้องบังคับฝืนตนจนเกินพอดี
พอศีลบริสุทธิ์ซักข้อ จิตจะตอบได้เองว่าควรจะไปทางไหน จะเริ่มเกิดปัญญามองเห็นความจริง ขอแค่มีกระแสความดีเกิดในใจให้จิตได้เปรียบเทียบ
จิตจะเริ่มเห็นเองว่าทำสิ่งนี้เป็นสุขหรือทุกข์กว่ากัน จะละวางสิ่งเป็นโทษอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้นในอนาคต
- สมัยก่อนผมสูบบุหรี่วันละ3ซอง กินเหล้าวันละกรม แต่สวดมนต์ทุกวัน อ่านหนังสือธรรมะเป็นประจำ กว่าจะเลิกได้ไม่ง่าย และไม่ยาก
เป็นประสบการณ์ตรงที่พิสูจน์กับตัวเองว่า จิตใต้สำนึกเขารับรู้ทุกอย่างและประมวลผลได้เอง แต่สำคัญสุดเราต้องมีตัวอย่างให้เขาเปรียบเทียบ
และต้องหมั่นเจริญสติหรือระลึกรู้ถึงสิ่งที่ทำอยู่เป็นประจำ แล้วตั้งคำถามให้ตัวเองบ่อย ๆ ว่าทำแล้วได้ประโยชน์อะไร เป็นความสุขจริงไหม ??
แม้จะผิดศีลมัวเมากิเลสอยู่ก็ตาม ให้พยายามระลึกเข้ามาในกายใจตนอยู่เสมอ ๆ ถามตัวเองย้ำๆ ว่าทำเสร็จแล้วได้อะไร
- ที่ต้องการความสุขแค่นี้เองหรือ? ดีกับชีวิตเราจริงหรือ? สุขที่ได้รับมันยั่งยืนหรือเปล่า ? น่าจะมีอะไรดีกว่านี้ไหม !! (เป็นการโปรแกรมจิต)
จิตมนุษย์มีความเป็นพุทธะหรือศาสนาอื่นเรียกว่ามีพระเจ้าสถิตอยู่ในตัวของทุกคน มีพลังมหาศาลที่ซ่อนอยู่ภายใน
ถ้าเราใส่ข้อมูลให้จิตใต้สำนึกบ่อยๆ จิตเขาจะตอบเราได้เองว่า.. สิ่งไหนควรไม่ควร และใช่สุขที่แท้จริงหรือยัง ??
- สำหรับคนยังผิดศีลติดเหล้ายา ขอเพียงอย่าจมกับมันสุดตัว อย่าปิดตัวเองด้วยความคิดว่าเราเอาดีไม่ได้ ไม่มีทางดีได้กว่านี้
รับรองว่าเพียงแค่ความดีที่บริสุทธิ์จากการทำทานเป็นประจำ(โดยเฉพาะธรรมทานที่ถูกต้อง) และการรักษาศีลข้อใดข้อหนึ่งสักข้ออย่างมั่นคง จะนำหลุดจากสิ่งเหล่านั้นได้โดยง่ายในอนาคต
แม้ปัจจุบันยังเมาหัวราน้ำหรือเคยทำผิดไว้มากก็ตาม ขอแค่พยายามงดหรือลดให้น้อยลงในเบื้องต้นก่อน กลับมาระลึกรู้ว่าสิ่งที่ทำมีโทษเจืออยู่ หมั่นคิดตั้งใจว่าจะถอยออกจากมันสักวันให้ได้
จะมีโอกาสหลุดได้ง่ายกว่าการที่ยังหลงคิดว่า สิ่งที่ทำมันถูกต้องหรือหักดิบตัดขาดในขณะจิตใต้สำนึกยังไม่พร้อมและไม่ยอมรับ
- หลายคนโปรแกรมจิตตัวเองทางอ้อมเสมอว่า.. กินเหล้าไม่ผิด ไม่บาป ไม่ได้ทำร้ายใคร สิ่งนี้ทำให้เกิดข้อมูลฝังในจิตระดับลึก
ส่งผลให้หลายภพชาติข้างหน้าคุณจะมั่นคงในความเป็นคนขี้เมามากขึ้น เมื่อทับถมความคิดแบบนี้ไปเรื่อย ในชาติถัด ๆ ไป คุณจะมีโอกาสติดเหล้าและยาเสพติดได้ง่ายกว่าคนอื่น เพราะมีวิบากความคุ้นชินติดตัวมาเป็นทุนเดิม
หากชาติก่อนไม่เคยกินเหล้า ไม่เคยเสพยา ชาติปัจจุบันแม้ลองหลายครั้ง อาจจะไม่ติดหรือไม่ชอบ และแม้ติดแล้วจะเลิกได้ง่ายกว่าคนอื่น
ต่างกับคนที่เคยช่ำชองติดใจหนักกับของมึนเมาในชาติก่อน เกิดใหม่แค่ได้ลองครั้งเดียวจะติดจนโงหัวไม่ขึ้นและเลิกได้ยากกว่าคนทั่วไป
- หากเข้าใจวิบากที่ข้ามภพชาติได้ เราคงไม่มานั่งสอนวิธีเลิกเหล้าเลิกบุหรี่กันแนวทางเดียวเหมือนทุกวันนี้
ที่ส่วนใหญ่คนเขียนตำราอาจเป็นแพทย์ที่ไม่เคยเสพยาหรือสูบบุหรี่หนักจนเลิกได้เลยด้วยซ้ำ !!
หรือบางคนเป็นเพราะวิบากเก่าน้อย ตัวเองเลิกได้ง่าย จึงพาลคิดไปว่าเลิกง่ายนิดเดียว.. "แค่ใจเท่านั้น"
แต่สำหรับคนอื่นมันไม่ใช่ คนเราทำกรรมมาไม่เหมือนกัน วิบากในจิตไม่เท่ากัน บางคนให้เลิกแทบตายก็เลิกไม่ได้ (ง่าย ๆ )
- การกินเหล้าอาจดูไม่ใช่บาปร้ายแรงหากกินแล้วไม่ได้ไปทำร้ายใคร (แต่ที่ตายวันละหลายคน ก็จากเหล้า-บุหรี่นั่นหละ) แต่มันทำลายสุขภาพ ก่อหลายโรค มีผลต่อคลื่นสมอง
รบกวนสมองส่วนจิตสำนึก ที่เป็นส่วนเดียวที่ทำให้คนคิดได้ต่างจากสัตว์ เป็นสมองส่วนที่ทำให้คนรู้จักมีน้ำใจ มีความกตัญญูรู้คุณ มองโลกแง่บวก ฯลฯ.......
เหล้า&ยาเสพติด (รวมความเครียดด้วย) ยังไปกระตุ้นสมองส่วนสัตว์เดรัจฉานให้โตขึ้น ทำงานดีขึ้น ส่งผลให้สามัญสำนึกจะค่อยถูกพัฒนาไปใกล้เคียงสัตว์เรื่อย ๆ หงุดหงิดง่าย ขาดเหตุผล
มองโลกแง่ร้าย สนใจแต่การกิน นอน สืบพันธ์ หาความสุข จะคิดได้แค่การเอาตัวเองให้รอด การเอาเปรียบคนอื่นเป็นเรื่องธรรมดา สัตว์ใหญ่กินสัตว์น้อยเป็นธรรมชาติ
- อาจมีบ้างที่แม้จะขี้เมาหนักแต่จิตใจดี มีมนุษยธรรมและสามัญสำนึกสูง(ในเวลาไม่เมา) นั่นเพราะมีสิ่งที่ทำให้คลื่นสมองสงบ มีสุขที่บริสุทธิ์มาถ่วงดุล
เช่น.. มั่นคงในการรักษาศีลข้ออื่น ๆ การทำความดี มีน้ำใจ มีความรักเมตตา สวดมนต์ ทำบุญ ฟังธรรม มีความกตัญญู รักษาสัจจะ
แต่ความดีที่มีมากมายอาจสลายพริบตาเพียงแค่ขาดสติจากการเมาแล้วข่มขืน ติดเอดส์เพราะความเมา เมาแล้วขับชนคนตาย เมาแล้วฆ่าคนตายได้แค่เรื่องเล็กน้อย ฯลฯ
- กฎแห่งกรรมของการกินเหล้าอย่างหนักคือส่งผลทั้งชาตินี้และชาติหน้าให้มีโอกาสเป็น.. "บ้า-ปัญญาอ่อน"
อย่างเบาคือส่งให้เกิดมาโง่สมองทึบ ปวดหัวฯ มองข้างถนนเห็นคนตัวเขรอะผมเผ้ายุ่งเหยิง ควรพึงระลึกว่าหากยังไม่คิดลดละเลิกบ้าง อนาคตคงไม่พ้นได้เกิดมาเป็นเหมือนเขา
หรือต่อให้มีบุญเก่าที่ทำทานสร้างกุศลไว้มาก อาจได้สิทธิ์กลับมาเกิดเป็นลูกเศรษฐีได้เสวยบุญเก่าบนกองทอง ในสภาพน้ำลายฟูมปาก เล่นขี้ตัวเองอย่างสำราญใจ
- เหล้าและยาเสพติดยังส่งผลเสียต่อการพัฒนาจิตในระยะยาวหลายภพชาติ
เมื่อสมองทึบ จะเข้าใจธรรมได้ยาก การเจริญสติดูจิตดูกายจะไม่แจ่มใส เพราะจิตบิดเบี้ยวจากกรรมที่ทำลายสติตัวเองมาเนิ่นนาน ทำให้หลงผิดได้ง่ายหรือเดินหน้าสู่เส้นทางธรรมได้ยากลำบากมากขึ้น
ดังนั้นจึงควรใส่ใจกับการสร้างกรรมดีในด้านสร้างปัญญาสร้างสติให้ผู้คนให้มาก
เช่น.. การสนับสนุนกิจกรรมการปฏิบัติธรรม หรือการเผยแพร่คำสอนธรรมะที่ถูกต้องไปในวงกว้าง เมื่อทำให้มากจะมีผลสะท้อนกลับหาตัวเรา และส่งให้เกิดปัญญาเกิดสติได้ง่าย
- ปัจจุบันมีคำสอนธรรมแบบผิดงมงายจำนวนมาก โดยเฉพาะลัทธิบ้าบุญ บูชาพระพุทธรูป-บูชาเทพเจ้าในเชิงขอโชคลาภ
ข้อมูลที่เชื่อถือได้ควรเป็นพระไตรปิฎก ,หรือตำรา ธรรมนิพนธ์จาก.. สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ซึ่งชาวพุทธทุกนิกายมีมติถวายตำแหน่งผู้นำสูงสุดของชาวพุทธทั่วโลก
และขอแนะนำงานของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตฺโต), หลวงพ่อพุธ ฐานิโย, หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช, อ.พร รัตนสุวรรณ , อ.วศิน อินทสระ , คุณดังตฤณ ฯลฯ
เหล่านี้คือผู้ทรงคุณธรรมที่แตกฉานในการอธิบายให้คนรุ่นใหม่เข้าใจได้ง่ายขึ้น วิธีตรวจสอบคือ คำสอนต้องเพื่อลดการยึดมั่นถือมั่น และไม่ขัดแย้งกับพระไตรปิฎก โดยต้องเทียบทั้งวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม
เหล่านี้คือผู้ทรงคุณธรรมที่แตกฉานในการอธิบายให้คนรุ่นใหม่เข้าใจได้ง่ายขึ้น วิธีตรวจสอบคือ คำสอนต้องเพื่อลดการยึดมั่นถือมั่น และไม่ขัดแย้งกับพระไตรปิฎก โดยต้องเทียบทั้งวินัย พระสูตร และพระอภิธรรม
- หากเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมได้ดีพอ จะไม่สงสัยเลยว่า.. สิ่งที่คิดว่าไม่ผิด ทำไมพระพุทธองค์ถึงทรงบัญญัติไว้ในศีลห้าข้อแรกที่ควรงดเว้น
ศีลห้าไม่ใช่กฎข้อบังคับแต่เป็นข้อเสนอแนะว่า ถ้าลดละเลิกได้ จะมีผลดีต่อชีวิต เป็นทางแห่งความสุข ทางพ้นอบายภูมิ :
หากไม่ละเว้นสิ่งเหล่านี้ จะพบความสุขแท้จริงไม่ได้ บอกให้ฟังถึงเหตุและผล ส่วนใครจะทำตามหรือไม่แล้วแต่บุคคลนั้นต้องการ
ที่ว่าเหล้าและยาเสพติดเป็นทางสู่อบาย เพราะคนเราจะตายไปเกิดเป็นอะไรอยู่ที่จิตสุดท้ายว่ารู้สึกและคิดแบบไหน ชีวิตประจำวันคุ้นชินกับอารมณ์ใด สิ่งเหล่านั้นจะไปปรากฏได้ง่ายในเวลาใกล้ตาย
- คนติดเหล้าจิตมักสะสมสภาวะจิตในลักษณะเบลอ ๆ เคลิ้ม ๆ ไว้เป็นประจำ ซึ่งเป็นภาวะจิตที่ส่งให้มีโอกาสเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานได้ง่ายที่สุด
คงยากหากไม่ศึกษาธรรมแล้วจะยอมรับหลักการนี้ได้ แต่เชื่อเถอะว่าการเชื่อเรื่องผลกรรมแบบถูกต้องไม่เคยทำให้ใครฉิบหาย
อย่างน้อยถ้าเลิกยาเสพติดได้ ผลดีจะเกิดตามมากมาย ทั้งสุขภาพดี ประหยัดเงิน ลดโอกาสเสี่ยงติดโรค
- ลดโอกาสโดนลากไปข่มขืน หรือทะเลาะวิวาทกับอันธพาล ที่ตายก่อนวัยในข่าวก็เพราะ.. “เมา” แทบทั้งนั้น
ยาเสพติดให้โทษอีกอย่างคือ..“บุหรี่” ที่แม้ไม่มีกำหนดในพระวินัยแต่ก็ควรลดละเลิกเพราะทำลายสุขภาพอย่างมาก สารพัดโรคเกิดจากบุหรี่
ไม่ได้ตายคนเดียว แต่สร้างบาปพาคนรอบข้างเจ็บป่วยไปด้วย เป็นสิ่งที่ชาวโลกล้วนรังเกียจในปัจจุบัน ถือเป็น.. “โลกวัชชะ” (โล-กะ-วัด-ชะ) คือ.. โลกติเตียน
เป็นสิ่งไม่สมควรทั้งพระและฆราวาส สำหรับพระที่ยังติดบุหรี่ อยากกราบนิมนต์พระคุณเจ้าช่วยสูบในที่ลับตาคน จะเป็นบุญแก่พระศาสนาอย่างมาก เพราะมันส่งผลเสียให้ภาพของพระไม่น่าเคารพในสายตาของคนทั้งโลก
ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านสูบเพราะมีสาเหตุที่คนธรรมดาไม่ใช่พระอริยะคงเข้าใจได้ยาก แต่มักชอบเอาตนเองไปทำตามอย่างพระผู้เหนือโลกแล้ว ยาเส้นสมัยก่อนถือเป็นยารักษาโรคบางโรคได้ ช่วยไล่แมลงได้
- ได้ฟังจากผู้รู้ท่านเล่าว่า.. บางท่านมีวิบากเคยเสพติดมายาวนาน ร่างกายชินกับสารเหล่านี้ตั้งแต่ก่อนบวชหรือชาติก่อนก็ตาม ทำให้เลิกไม่ได้ แต่จิตท่านไม่ได้เสพติดเพราะพ้นปุถุชนเป็นอริยะสงฆ์แล้ว
(พระอรหันต์ทำอะไร ไม่ถือเป็นกรรม แต่เป็นกิริยา)
คล้ายกรณีพระพูดคำหยาบติดปากในพระไตรปิฎก เป็นเพียงวาสนาติดตัวมา ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่คนไม่ศึกษาให้ลึกซึ้งจะเข้าใจได้
เลยส่งผลเสียให้เกิดการปรามาสและเข้าใจผิด พระหนุ่มเณรน้อยหลายรูปกลับใช้เป็นข้ออ้างในการเลียนแบบสูบตามพระเกจิอาจารย์บ้าง
- ซึ่งควรพิจารณาถึงความเหมาะสม อย่างน้อยควรห่วงเรื่องโทษภัยจากบุหรี่ ที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวว่าเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง แต่กลับเป็นยาเสพติดที่ถูกกฎหมาย ??!!
ทิ้งท้ายสำหรับท่านที่กลุ้มใจเรื่องลูกหลานติดยา ทำใจให้สบายเถอะครับ มองให้เห็นว่ามันคือ.. กรรมของเราที่ต้องได้ลูกหลานแบบนี้ และการเลี้ยงดูที่ขาดการใส่ใจแต่เด็กแบบถูกต้อง หล่อหลอมเขาให้โตมาเป็นแบบนี้
อย่าทุกข์แทนคนอื่นเลย อนาคตที่มืดมนมันก็ชีวิตและกรรมของเขา ทำจิตให้เบิกบานด้วยเมตตารักจริง พลังรักอาจเปลี่ยนคนได้ ผู้เขียนเองเลิกบุหรี่ได้เพราะความรักของแม่ที่มีให้อย่างบริสุทธิ์
พอเลิกบุหรี่ได้ การเลิกเหล้า เลิกพนันก็ตามมาเป็นพรวน พระผู้ปฏิบัติดีมีพลังเมตตาสูง สัตว์ร้ายผ่านมาพบยังต้องยอมสยบและไม่ทำร้าย แผ่เมตตาให้เขามาก ๆ
- ส่งความรักให้เขามาก ๆ อวยพรให้เขามีความสุขบ่อย ๆ ขอให้เขาเลิกยาได้ในเร็ววัน แต่ถ้าเขาเลิกไม่ได้ ก็ขอให้เขามีความสุขแค่นั้นพอ ไม่ต้องไปทุกข์ใจแทนเขา
เมื่อรู้สึกทุกข์ใจกับลูกที่ไม่ดี ให้ลองทำใจว่ากำลังเลี้ยงหมาอยู่แล้วคุณจะสบายใจ หมามันมีอนาคตไหม?? แต่ทำไมเราเลี้ยงมันได้จนมันตาย เราไม่เคยทุกข์ ไม่เคยคาดหวังให้หมาต้องเรียนจบ ให้หมาต้องได้งานดี ๆ
ลูกหลานเหมือนกัน มีปัญญาก็เลี้ยงไปจนกว่าจะตายจากกันไป ถ้ามันแก้อะไรไม่ได้แล้ว ทุกข์ต่อไปเท่ากับสะสมอกุศลจิต ตายไปขณะที่จิตเป็นทุกข์.. ลงนรกอย่างเดียว
ตายจากกันชาตินี้ เกิดใหม่ชาติหน้า เขาไปเกิดเป็นลูกคนอื่น เดินสวนกันก็จำกันไม่ได้แล้ว รักแล้วต้องรู้จักวาง เลี้ยงหมาแบบไหน ให้คิดกับลูกหลานที่ติดยาแบบนั้น
- พาไปทำบุญด้วยกันบ่อย ๆ ให้เขาค่อย ๆ สะสมกุศลจิตทางอ้อม อาจช่วยได้ระดับหนึ่ง ถ้ารักเป็น ฝึกวางจิตให้เป็น ตัวเราเองจะมีความสุข
เชื่อมั่นในกฎแห่งกรรมเถอะครับว่า.. ทุกอย่างต้องมีเหตุมาก่อนจึงมี ผลตามมาแบบที่เจออยู่ในทุกวันนี้ ทุกสิ่งต้องเป็นเพราะ.. “ผลกรรม” ของเราชักนำให้มาเจอทั้งนั้น อย่ามัวแต่โทษคนอื่นหรือสิ่งแวดล้อม
การเชื่อหลักกรรมในแง่มุมที่ถูกต้อง จะทำให้เราแก้ปัญหาได้ถูกทาง และแม้จะแก้ไม่ได้แล้ว ก็ยังพอบรรเทาปัญหาได้ แถมทำให้เรารู้จักวางจิตและยอมรับง่ายขึ้น ไม่ทุกข์หนักเหมือนคนที่วางใจไม่เป็น
"รู้ธรรม รู้ทุกข์ ปล่อยวาง เป็นสุข ทุกข์น้อยลงทันตา"