อดีตชาติ เจ้ากรรมนายเวร มีจริงหรือไม่ บาปที่เคยทำแก้(บรรเทา)ได้จริงหรือ?? ..รู้แล้วมีประโยชน์อย่างไร.. "โปรดอ่านแล้วพิจารณาก่อนเชื่อ หรือปฏิเสธ"
ภพชาติมีจริง สิ่งมีจริงแต่เชื่อว่าไม่มี ถือเป็นมิจฉาทิฐิ จะบรรลุธรรมไม่ได้ (ผู้ไม่เชื่อว่าโอปปาติกะสัตว์ คือ เทวดา เปรต ฯ มีจริงถือเป็นมิจฉาทิฏฐิ - พระไตรปิฎก) มีการพิสูจน์เชิงวิทยาศาสตร์ทางจิตมากมายจากทั่วโลก
จนยอมรับว่า.. "การกลับชาติมาเกิดมีจริง" การพิสูจน์ที่เด่นสุดคือ การเดินทางทั่วโลกของ ศ.เอียน สตีเวนสัน ซึ่งมีการทดสอบเป็นขั้นตอน จดบันทึกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ล่าสุดทำเป็นสารคดีทางทีวีเผยแพร่ทั่วโลก
การเชื่อเรื่องแนวนี้ ต้องเชื่อแบบถูกต้องถึงเป็นประโยชน์ แต่หลายคนเชื่อแบบงมงายขาดเหตุผล จนตกเป็นเหยื่อให้กลุ่มคนหลอกลวง ซึ่งอาจมาในคราบผู้ทรงศีล หมอดู-ร่างทรง
"แก้กรรม" เป็นคำให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น เพราะกรรมแก้ไม่ได้ (แต่บรรเทา-เลื่อนส่งผลได้)
ทำอะไรไว้จะส่งผลกลับเสมอ มาเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับน้ำหนักกรรม จังหวะ-โอกาส เราเกิดมานับชาติไม่ถ้วน ความดีชั่วที่ทำไว้มากมาย รอสลับให้ผลเกินคาดเดาได้ คนไม่ยอมเชื่อเรื่องกรรม เพราะเห็นคนทำชั่วได้ดี... แต่นั่นคือความจริงครึ่งเดียว !!
ถ้าย้อนอดีตได้อาจพบว่า.. คนชั่วชาตินี้ เคยทำบุญใหญ่ชาติก่อนมามากแค่ไหน เกิดใหม่จึงรวย มีอำนาจ -มีโอกาส แต่บุญที่เคยทำ(มักเป็นด้านให้ทาน)ไม่ได้ประกันว่าจะเป็นคนดีเหมือนเคย ธรรมชาติของจิตทั่วไป จะคอยไหลลงต่ำเสมอ
พระอริยะขั้นโสดาบันขึ้นไปเท่านั้น ที่มั่นคงไม่ผันแปร จึงไม่แปลกที่คนแสนดีในอดีต อาจกลายเป็นมหาโจรปล้นชาติได้ในวันนี้
การศึกษาธรรมะ การรักษาศีล จึงเป็นบุญมากกว่าการบริจาคเงินเป็นล้านทุกวันตลอดชีวิต เพราะ ศีลและความรู้แจ้งในธรรม จะช่วยไม่ให้ต้องเกิดมาเผลอทำบาปด้วยความประมาทในพื้นฐานบุญเก่าที่เคยมีนั่นเอง
ทำบุญด้วยจิตไม่บริสุทธิ์ จะได้ผลบุญไม่บริสุทธิ์ ทำหวังผลให้ตัวเอง ขอให้รวย ขอสารพัด ครั้นบุญให้ผลจนรวยและยิ่งใหญ่ได้ตามปรารถนา
แต่ทำบุญด้วยความโลภ มักได้ความโลภตามมาด้วย เราจึงได้เห็นบางคนรวย แต่ขี้เหนียว เห็นแก่ตัว อยากได้ไม่สิ้นสุด ซึ่งคนรวยมีอำนาจมีโอกาสทำชั่วได้ผลกว้างกว่าคนจนหลายเท่า
การทำบุญ (บางอย่าง) ชาติหนึ่ง อาจเพื่อกลับมามีโอกาสทำบาปใหญ่อีกชาติหนึ่ง ผลจากบาปส่งต่อไปนรกหรือเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานต่ออีกหลายร้อยชาติ
กว่าจะรอจังหวะมีพ่อแม่ที่เหมาะสม เพื่อเกิดเป็นคน ได้โอกาสแก้ตัวอีกครั้ง อาจรอกันจนลืมไปเลยว่าเคยทำชั่วไว้มากแค่ไหน ประชากรโลกเพิ่มทุกปีก็จริง แต่วิญญาณต่างภพภูมิที่รอเกิดเป็นมนุษย์ มีมากกว่าคนทั้งโลกจนประมาณไม่ได้เช่นกัน !!
มองให้ลึกจะเห็นการทำบุญไม่ถูกทาง ไม่ครบด้าน อาจส่งหายนะในชาติต่อไปได้อย่างน่ากลัว นี่คือเหตุผลว่าทำไมการรักษาศีล ให้อภัย จึงมีอานิสงส์กว่าบริจาคเงินเป็นล้าน การเจริญสติทำไมเป็นบุญสูงสุด
ในแง่การ.. "ให้" ทำไมให้ธรรมะ (ที่ถูกต้อง) ถึงชนะการให้ทั้งปวง
เพราะธรรมะสอนคนให้รู้จักอภัย ให้ทาน รักษาศีล เจริญสติ เป็นจุดเริ่มต้นในบุญทุกด้าน เมื่อให้ปัญญาที่ถูกต้องกับผู้อื่น จะได้ปัญญาที่ถูกต้องกลับมาเช่นกัน
จิตสว่างมีปัญญาในธรรม เกิดใหม่ถ้ารวย จะรวยอย่างมีสุข รู้จักเผื่อแผ่ ช่วยเหลือ เข้าหาธรรมได้ง่าย
ถ้าเกิดมาจน ก็จนอย่างรู้จักพอ อดทน ขยัน ขวนขวายพัฒนาตนจนก้าวพ้นความตกต่ำได้ง่าย เศรษฐีระดับโลกหลายคน เคยล้มหมดตัวหรือยากจนมาก่อน (หลายคนเรียนไม่จบด้วย)
แต่เพราะ.. "ปัญญาและใจเท่านั้น" จึงฟื้นพลิกชีวิตได้ วิทยาศาสตร์พิสูจน์ชัดว่า.... จิตเยือกเย็นผ่องใส มีสมาธิ มีผลต่อคลื่นสมองให้วิ่งช้าลงเป็นระเบียบ นำมาซึ่งความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง แก้ปัญหาได้ดีขึ้น
แต่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ลึกพอว่า ที่ฉลาดจนแก้วิกฤตและเจอช่องทางรวยได้ ไม่ใช่แค่สมอง แต่เพราะบุญที่เคยทำถูกด้านส่งให้.. "ใจสู้และคิดเป็น" รู้จักเลือกช่องทางให้ตนถูกต้อง รู้จักสู้หรือถอยในสิ่งที่ควร
"คนขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย" และอะไรดึงให้ขยันผิดที่อยู่อย่างนั้น การศึกษาธรรมคล้ายเล่นหุ้น ถ้าข้อมูลดีกว่า ลงทุนน้อยแต่ทำถูกที่ จะได้กำไรมากกว่า
ธรรมะไม่ได้สอนให้อยากรวย แต่เป็นความจริงว่า เมื่อปฏิบัติถูกต้องจะส่งให้รวยได้อย่างมีความสุข นำสู่การปล่อยวางได้ง่ายในบั้นปลาย
ครูบา-อาจารย์สอนว่า.. "คนประสบความสำเร็จในอาชีพ มีพร้อมในทางโลก เมื่อบวชจะเจริญได้ง่าย เพราะเต็มอิ่มและสิ้นสงสัยว่าสุขทางโลกแค่ของปลอม (พระพุทธองค์ ก็ทรงมีพร้อมทุกอย่างก่อนมาบวช)
ความขยันอดทนต่อสู้ปัญหาในงาน จะติดนิสัยส่งถึงความเพียรในการปฏิบัติธรรมด้วย ธรรมะเบื้องต้นสำหรับฆราวาสคือ ขยันในงานที่สุจริต ทำชีวิตให้ดี ดูแลพ่อแม่ครอบครัว หมั่นสะสมคุณธรรมพื้นฐานในชีวิตประจำวันไปตามลำดับขั้น
แต่เรามักเอาธรรมะระดับอรหันต์ (อะ-ระ-หัน) มาสอนคนพึ่งเริ่มต้น จึงเข้าใจยากและทำตามไม่ได้
กรรมแก้ไม่ได้ก็จริง แต่เจือจางหรือยืดเวลาส่งผลได้ กรรมชั่วเหมือนยาพิษ กรรมดีเหมือนน้ำเปล่า ยาพิษหนึ่งช้อนใส่น้ำเปล่าหนึ่งแก้ว กินแล้วอาจตายทันที แต่ยาพิษหนึ่งช้อนใส่ในสระน้ำ อาจไม่ส่งผลทั้งที่ยาพิษเท่าเดิม
ความชั่วที่สะสมมาแต่ชาติก่อน ถูกเจือจางได้ด้วยการทำดีแต่ต้องมีปริมาณมากกว่าอาจเป็นล้านเท่า แต่ไม่ใช่ว่าผลกรรมชั่วจะหายไป ยังรอให้ผลเมื่อบุญหมดหรือสบโอกาส อยากแก้กรรมต้องเริ่มที่หยุดทำบาปใหม่ทั้งปวง รักษาศีล
โดยเริ่มต้นที่ทำได้ทีละข้อก่อนก็ได้ และทำความดีให้มากที่สุดเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ทำนิดหน่อย กลับคิดว่าทำมากแล้ว
และบุญแต่ละอย่างมีผลต่างกัน การทำบุญด้านเดียวมากมาย ไม่ได้ประกันว่าเจือจางกรรมชั่วที่ทำไว้หลากหลายได้ บางคนประมาทว่าชีวิตนี้ไม่ได้ทำชั่ว ปล่อยชีวิตเสพสุขไปวัน ๆ ไม่ต่างกับตั้งน้ำเปล่าผสมพิษไว้ น้ำจะค่อยระเหยเหลือแต่สารพิษ สุดท้ายรับกรรมเต็ม ๆ
การที่เราอยู่ดีมีสุข มีข้าวกิน มีบ้านอยู่ ได้ที่นั่งดี ได้เห็นสิ่งสบายตา แม้แต่เล่นเกมชนะ ล้วนเป็นการใช้บุญให้หมดไปวัน ๆ เปิดทางให้กรรมชั่วที่เคยทำส่งผลเร็วขึ้น เชื่อไหมว่า..คนทั่วโลกจำนวนมากต้องเจอหายนะ ทุกข์สาหัสหลังถูกรางวัลที่หนึ่ง
ดารานักร้องจำนวนไม่น้อยที่ดังเร็ว แต่ไม่นานก็ร่วงลงเหว ตกต่ำจนต้องขายตัว ติดยา ฆ่าตัวตาย ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต (แถมมักหลงโลก กิเลสพอกหนาขึ้น)
การได้ดีมีสุข ชนะอะไรก็ตาม คือการใช้บุญเก่าให้หมดไป "ยิ่งได้อะไรมากเท่าไร หมายถึงบุญของเรา จะหมดไปมากเท่านั้น !!"
เปรียบชีวิตคือการขับรถไปเรื่อย ๆ บุญเหมือนรถขนรางวัลขับตามจะมอบให้เรา บาปเหมือนรถคนโกรธจัดขับตามล้างแค้นที่เราเคยทำร้ายเขาไว้ แต่ตามไม่ทัน เพราะเรายังเร่งเครื่อง(ทำดี)ไปเรื่อย แถมมีรถรางวัลมาขวางไว้ให้อีกชั้น
การทำความดีเหมือนเร่งเครื่องหนีห่างไกลขึ้น หากไม่สร้างความดีเพิ่ม ก็เหมือนหยุดเหยียบคันเร่ง ในที่สุดเขาจะตามทัน รถรางวัลอาจมาถึงก่อน มอบของเสร็จแล้วจากไป ทิ้งให้หยุดเพลินชื่นชมกับสมบัติที่ได้
บางคนมีรถรางวัลหลายคันทยอยมอบทีละน้อย แต่บางคนเหมาทั้งหมดทุกคันมาพร้อมกัน กลายเป็นรางวัลก้อนใหญ่ให้ตูมเดียวแล้วขับจากไป จึงไม่มีอะไรขวางไว้เหมือนก่อน เปิดทางรถคู่อาฆาตที่รอคิวเข้ามาล้างแค้นได้เต็มที่
(ถูกหวยรางวัลใหญ่ ไม่กี่วันตายมีเยอะนะ ไม่ใช่แค่คนไทย ฝรั่งก็มีข่าว)
หลายคนเที่ยวไหว้ขอเทวดาให้ช่วย แต่กลับไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ส่วนใหญ่มาจากบุญเก่าของเราทั้งนั้น ท่านอาจช่วยเหมารวมเป็นกองเดียวกันให้ หรือจากแรงปรารถนาทางจิตของเรา หรือเบิกบุญล่วงหน้าที่สุดท้ายต้องใช้คืนอยู่ดี
บางคนเหมือนเบิกเงิน(บุญ)ใช้ทีเดียวหมดบัญชี จึงไม่เหลือเงินเติมน้ำมันเพื่อขับหนีคนที่ตามล่าอยู่อย่างเคียดแค้น จึงไม่แปลกที่คนโชคดีหลายคนจะเจอหายนะตามมาติด ๆ ยิ่งโชคดีเท่าไร สิ่งขวางกั้นโชคร้าย (กรรมเก่า) ก็หมดไปเร็วขึ้นเท่านั้น
สำหรับคนที่กำลังเจอมรสุมร้ายแรง ควรดีใจเถอะว่า.. กำลังชดใช้หนี้บาปให้หมดเร็ว ๆ เจ็บแค่ไหนให้รู้ว่าครั้งหนึ่งเราทำคนอื่นให้รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
อดทนให้ผ่านไปด้วยจิตสำนึกบาป ไม่นานจะได้รับผลจากกรรมดีที่เคยทำไว้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีหนี้เก่ามากวนใจให้ทุกข์สาหัสอีก
สิ่งสำคัญต้องเร่งทำบุญ คือทำสิ่งที่ส่งให้จิตเป็นกุศลให้มาก เป็นทุนป้องกันตัวเองไว้ก่อน ไม่ว่ากำลังโชคดีหรือโชคร้ายก็ตาม (คือ.. ทาน ศีล ภาวนา ไม่ใช่แค่บริจาคเงิน)
(อ่านบทความอื่น)
(โทรศัพท์:กดที่ = มุมขวาบนสุด)